post-image

“ ผู้เฒ่าชนบท ”

“ยายครับ เป็นคนที่ไหนครับ ? ยายตอบ ... “เป็นคนชนบท” คำพูดของยายบังอร คงกลาง  ประธานชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลชนบท อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น”

            ตำบลชนบทเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ทุกครัวเรือนจะมีที่ดินเป็นของตนเองเพื่อการทำนา ทำไร่ ทำสวนหรือเลี้ยงสัตว์ นอกจากอาชีพทำนาแล้วยังมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปลูกฝ้าย เพื่อนำเส้นไหมและฝ้ายมาทอเป็นผืนผ้า ดังคำกล่าวที่ว่า “ยามว่างจากนา ผู้หญิงทอผ้า ผู้ชายจักสาน” และอำเภอชนบทถือว่ามีชื่อเสียงเรื่องผ้าไหมคุณภาพดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ดังคำผญาที่สอนสตรีชาวอีสานว่า “ทอหูกบ่เป็นแจ ทอแพรบ่เป็นฝาต้อน เลี้ยงม่อนบ่ฮู้โตลุกโตนอน อย่าฟ้าววอนเอาผัว” ผู้คนในตำบลชนบทจึงเป็นต้นแบบการทอผ้าไหมมัดหมี่หน้านางที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์

            เทศบาลตำบลชนบท มีพื้นที่ประมาณ 3.514 ตารางกิโลเมตร มีเขตรับผิดชอบติดต่อกัน 2 ตำบล ดูแลรับผิดชอบครอบคลุม 11 หมู่บ้าน ได้แก่ ในเขตตำบลชนบท 7 หมู่บ้าน และตำบลศรีบุญเรือง 4 หมู่บ้าน มี 2,299 ครัวเรือน และมีประชากร 7,995 คน แยกเป็นชาย 3,767 คน และหญิง 4,228 คน มีผู้สูงอายุ 1,267 คน ซึ่งในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลชนบทได้ให้การช่วยเหลือตามบทบาทและหน้าที่ ที่ดำเนินการได้ ได้แก่ จัดสวัสดิการรถกู้ชีพกู้ภัยรับส่งหรือให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส หรือสนับสนุนการดำเนินงานของชมรมผู้สูงอายุทั้ง 14 ชมรมในตำบล ให้มีความเข้มแข็งและสามารถบริหารจัดการได้ดี สนับสนุนการรวมกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน พบปะและออกกำลังกายร่วมกัน สนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุที่มีอาคารเทศบาลหลังเก่าเพื่อการเรียนรู้ให้มีความพร้อม เช่น สื่อการเรียนสำหรับผู้สูงอายุ กายอุปกรณ์เพื่อออกกำลังกายและช่วยเหลือเมื่อยามเจ็บป่วย เช่น ไม้ดัดเพื่อคลายเส้นเอ็น ยางยืดเหยียดคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น กิจกรรมปลูกพืชสมุนไพร เป็นต้น

            เทศบาลตำบลชนบทมุ่งเน้นการพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุโดยการนำวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ดังเช่น การรวมกลุ่มผู้สูงอายุผลิตพืชสมุนไพรเพื่อส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชนและสุขภาพผู้สูงอายุ จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ จัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและผู้พิการ การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในทุกมิติโดยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ ในสังคมและได้รับบริการอย่างเท่าเทียม มีศูนย์ผลิตกายอุปกรณ์และศูนย์ยืมอุปกรณ์เพื่อสุขภาพในชุมชน โดยทั้งหมดต้องมีการจัดการและดำเนินงานที่มีความพร้อมทั้งบุคลากรและทรัพยากรดำเนินการ มีการเตรียมทีมที่มีคุณภาพเพื่อสร้างการเรียนรู้ด้วยกลไกสภาผู้นำชุมชน การอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ เครื่องมือการทำงาน ระดมทรัพยากร วางแผนการใช้จ่าย ความพยายามในการผลักดันวาระผู้สูงอายุเข้าสู่เทศบัญญัติเพื่อรับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเพียงพอและเป็นธรรม การติดตามเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุถึงบ้าน ส่งเสริมการทานอาหารเป็นยากับผู้สูงอายุและส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยวัสดุที่ทำจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ก้านตาลหรือกะลามะพร้าว เป็นต้น ส่งเสริมการทำกิจกรรมผู้สูงอายุผลิตกายอุปกรณ์ด้วยตนเอง ส่งเสริมศูนย์ปลูกและกระจายพืชสมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ ส่งเสริมกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุที่มีการเรียนการสอนต่อเนื่องมาแล้ว 3 รุ่น (3 ปี) นอกจากนี้ ยังมีศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุและคนพิการที่มีกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างระบบตามหน้าที่การให้บริการสาธารณะ รวมทั้ง ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชน เทศบาลตำบลชนบทจึงต้องการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง ลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุมีเงินออม มีศูนย์กายอุปกรณ์ที่มีความพร้อมให้บริการเพียงพอกับผู้สูงอายุ และจัดตั้งศูนย์ดูแลกลางวันสำหรับผู้สูงอายุ (Day Care) โดยใช้พื้นที่อาคารเทศบาลหลังเก่าเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) เพื่อบูรณาการร่วมกับศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ และสร้างจิตอาสาชมรมผู้สูงอายุร่วมดูแลฟื้นฟูด้านจิตใจ งานด้านการฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง

            คำว่า “ผู้เฒ่าชนบท” ในที่นี้หมายถึง ผู้สูงอายุที่อาศัยในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลชนบทที่ควรได้รับการดูแล ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีสุขภาพที่ดี ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้เฒ่าชนบทจึงมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ จากหลายหน่วยงาน เทศบาลตำบลชนบทเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดมากที่สุดที่ผู้เฒ่าชนบทจะจัดกิจกรรมด้วย ดังนั้น เทศบาลตำบลชนบทจึงมีการสนับสนุนให้เกิดชมรมผู้สูงอายุ โดยมีนางบังอร คงกลาง เป็นประธานผู้เฒ่าชนบท (ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลชนบท) และมีชมรมผู้สูงอายุกว่า 14 ชมรม โดยชมรมผู้สูงอายุแต่ละหมู่บ้านจะมีตัวแทนมาร่วมเป็นคณะกรรมการชมรมผู้สูงอายุระดับตำบล โดยบทบาทของชมรมผู้สูงอายุตำบลชนบทเป็นกลไกที่ช่วยเสริมสร้างแนวทางและการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ เสริมสร้างและพัฒนาแนวคิดและรูปแบบการทำงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ สะท้อนงานด้านข้อมูล และทุกคนที่เข้าร่วมได้เสนอแนะ ให้ความคิดเห็น เปิดใจยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ร่วมกันกำหนดกติกามาปรับใช้อย่างเหมาะสม ประยุกต์ใช้แนวคิดจากพื้นที่ต้นแบบมาสู่การจัดการชมรมผู้สูงอายุระดับหมู่บ้าน ส่งเสริมความรู้ในเรื่องดูแลสุขภาพตนเองและเพื่อนบ้านผู้สูงอายุ เป็นต้น

            เทศบาลตำบลชนบทร่วมกับผู้สูงอายุจัดกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ส่งเสริมการใช้พืชสมุนไพร จนเกิดความสำเร็จและเห็นผลลัพธ์เรื่องการนำความรู้ไปใช้ดูแลสุขภาพ ผู้ดูแลผู้สูงอายุทุกคนเข้าร่วมประเมินสุขภาพจิตเกิดการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่า ดังเช่น ผู้สูงอายุได้รับความรู้ในการใช้พืชสมุนไพรที่มีอยู่และนำมาใช้อย่างถูกวิธีหรือถูกโรคของตนเอง ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยากินเอง มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สูงอายุและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังขาดการดูแลที่ทั่วถึง ครอบคลุมของผู้สูงอายุทั้งหมด เทศบาลตำบลชนบทมีทีมคณะกรรมการชมรมและอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชนบทร่วมออกเยี่ยมบ้าน ให้ความรู้และตรวจสุขภาพที่บ้านผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายท้องถิ่น

            ความสำเร็จจากการดำเนินงานนี้เกิดจากการมีทีมคณะกรรมการแกนนำชมรมผู้สูงอายุและเทศบาลตำบลชนบทที่มีความเข้มแข็งและร่วมมือร่วมใจกันดำเนินงาน เห็นความสำคัญของผู้สูงอายุและวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ ร่วมกันวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาของผู้สูงอายุ กระตุ้นให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริมการรวมตัวของผู้สูงอายุเพื่อดูแลกันและกัน เช่น กิจกรรมเข้าวัดช่วงเทศกาลเข้าพรรษา การเยี่ยมและดูแลสุขภาพของพ่อออกแม่ออก (ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาถือศีล 8 ในวันพระช่วงเข้าพรรษา) โดยเวียนไปตามวัดทุกวัดในเขตเทศบาลตำบลชนบท ส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อผลิตกายอุปกรณ์เพื่อใช้และให้มีใช้อย่างทั่วถึง และเกิดทีมผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ให้ความร่วมมือออกเยี่ยม ติดตาม ดูแลและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ บทเรียนสำคัญที่ได้รับ คือ ทีมทำงานชมรมผู้สูงอายุและเทศบาลตำบลชนบทต้องเป็นผู้มีจิตอาสา เสียสละ มีพื้นฐานความเข้าใจการดำเนินงานกับผู้สูงอายุ เป็นผู้มีความต้องการพัฒนาตนเองในด้านทักษะการจัดการโครงการด้านการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เป็นต้น

            เงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลชนบท เกิดจากการมีแนวทางข้อกำหนด กติกาการร่วมกิจกรรมกลุ่มของผู้สูงอายุ โดยการพยายามหนุนเสริมเรื่องกติกาของชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลชนบทกำหนดขึ้นและจะต้องนำไปใช้และขยายผลจริงในหมู่บ้าน โดยจะมีทีมติดตามและ ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เกิดครอบครัวต้นแบบในชุมชน โดยชมรมผู้สูงอายุทุกชมรมมีครอบครัวต้นแบบประมาณ 20-30 ครอบครัวต่อชมรม โดยแต่ละชุมชนมีการส่งเสริมผู้สูงอายุให้บริโภคผักปลอดสารพิษ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างเหมาะสม   

            จากกลไกของคณะทำงานชมรมผู้สูงอายุตำบลชนบทที่วางแผนการทำงานที่ชัดเจน และการเป็นแบบอย่างการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ คณะทำงานชมรมผู้สูงอายุทำตามบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนโครงการและงานในชุมชนที่มีการดำเนินการของผู้สูงอายุ สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้จริง คณะทำงานชมรมผู้สูงอายุสามารถขับเคลื่อนงานตามแผนงานและปรับแผนงานให้สำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์โดยการสร้างวิธีการกำหนดกติกาให้ชุมชนได้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการทำให้ผลลัพธ์เกิดความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สูงอายุในชุมชน ได้แก่ 1) ส่งเสริมการให้ความรู้ความเข้าใจและเทคนิคการทำงานประเด็นปัญหาต่าง ๆ ของผู้สูงอายุอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ในบางกรณีอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น ต้องได้เห็นของจริง ต้องมีตัวอย่างพื้นที่หรือบุคคลที่ประสบปัญหาและได้รับการแก้ไข เป็นต้น 2) ส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้สูงอายุเพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อการระดมทุนและทรัพยากร ในบางกรณีอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น มีกติกาหรือข้อตกลงกลุ่ม (ระดมทุน ร่วมแรง แบ่งงาน ติดตาม ตรวจสอบ) และมีแกนนำพาทำเป็นแบบอย่าง และ 3) ส่งเสริมการจัดการข้อมูลที่ชัดเจนตรงไปตรงมาและต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ถูกต้อง พร้อมที่จะคืนข้อมูลอย่างถูกต้อง ทว่า กิจกรรมต่าง ๆ จะเกิดผลลัพธ์ได้ต้องขึ้นกับการทำให้ผู้สูงอายุในชุมชนได้เห็นพ้องต้องกันว่าเป็นปัญหาของทุกคนและพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหา โดยคณะทำงานชมรมผู้สูงอายุที่มีการวางแผนการทำงานที่ชัดเจน และเป็นแบบอย่างในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ จะสร้างวิธีการหรือกำหนดกติกาให้ผู้สูงอายุในชุมชนได้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการทำให้ผลลัพธ์เกิดความสำเร็จ รวมทั้ง มีระบบการติดตามและประเมินผลกิจกรรมและการบริหารจัดการระดับหมู่บ้านในแต่ละชมรม โดยมีกลไกชมรมผู้สูงอายุตำบลร่วมติดตามและประเมินผลการทำงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเดือนละ 1 ครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานและวางแผนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กลวิธีในการทำงาน คือ ระบบรายงานผลการดำเนินงานในที่ประชุมคณะทำงานชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลชนบท ร่วมกันวิเคราะห์ผลสำเร็จ   บทเรียนสำคัญและแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น  

            แนวทางการขยายผลและโอกาสของความยั่งยืน คือ การสร้างความเชื่อและทัศนคติที่ดีเรื่องแนวคิดชุมชนน่าอยู่ของภาคีเครือข่าย ท้องถิ่นกับการเข้าถึงผู้สูงอายุ กลไกการทำงานที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม มีการแบ่งบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ สร้างแกนนำ สร้างกลไกการขับเคลื่อนงาน สร้างการใช้ข้อมูลอย่างมีส่วนร่วมนั่นเอง

 

 

เรื่อง/เรียบเรียง : วิจิตร จันทะวงษ์